วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเเคนเบอร่า

แคนเบอร์ร่า (Canberra) คือเมืองหลวงของออสเตรเลีย แคนเบอร์ร่าตั้งอยู่ที่ตอนเหนือของออสเตรเลียน แคปิตอล เทอร์ริทอรี (Australian Capital Territory) แคนเบอร์ร่าได้รับเลือกเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของชาติเมื่อ พ.ศ. 2451 เป็นข้อตกลงระหว่างซิดนีย์และเมลเบิร์น เป็นเมืองที่มีการจัดผังเมืองไว้ล่วงหน้า (planned city) ที่มีการสร้างด้วยวัตถุประสงค์เฉพาะ เริ่มก่อสร้างเมื่อ พ.ศ. 2456 ผังเมืองได้รับอิทธิพลจาก garden city movement และได้รวมถึงพื้นที่ธรรมชาติพอสมควร ทำให้แคนเบอร์ราได้รับฉายาว่า "bush capital"
                                    
National Museum of Australia
พิพิธภัณฑ์ ที่จะบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่สมัยที่ชาวยุโรปได้เข้ามาตั้งรกรากอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวต่างๆที่จะนำเสนอ ที่เต็มไปด้วยสาระเรื่องที่น่ารู้ต่างๆ ตั้งแต่เรื่องราวของ การขุดทองในสมัยก่อน เพชรพลอย การแต่งตัว ไปจนถึงชีวะประวัติ ของสะสมของนักกีฬาที่มีชื่อเสียง
                                                                            

Cockington Green Gardens
Cockington Green Gardens นี้เปิดให้บริการมามากกว่า30ปีแล้ว เมื่อเราได้เข้ามาที่สวนแห่งนี้ เราจะได้พบเห็นทั้ง บ้าน ปราสาท และ สถาปัตยกรรมต่างๆที่มีชื่อเสียงของโลก ในขนาดย่อส่วน ที่นี้เป็นเหมือนเมืองจำลองที่อยู่ทาบกลางสวนดอกไม้ มีดอกไม้นานาพันธ์ให้รู้สึกเพลิดเพลิน สวนแห่งนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 9.30น. - 5.00น. สำหรับเรื่องค่าบริการมีหลายราคา ทั้งแบบีราคาตั๋วเดี่ยว หรือราคาเหมากรุ๊ป

Australian War Memorial
อนุสรณ์ของออสเตรเลียเพื่อระลึกถึงเหล่าผู้ที่เสียชีวิตในสงคราม อนุสรณ์แห่งนี้เปิดเมื่อ ปี ค.ศ. 1941 อนุสรณ์นี้เป็นที่ เหล่านักเรียนนักศึกษาชาวออสซี่นั้น ให้ความสนใจเข้ามาศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สงคราวมากมาย ที่อนุสรณ์แห่งนี้จะปิดให้บริการในเวลา 5โมงเย็น และจะมีพิธีปิด เพื่อเป็นเกียรติ ไว้อาลัยแก่เหล่าทหารกล้าอีกด้วย

Museum of Australian Democracy at Old Parliament House
ที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องการเข้าไปศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของประเทศออสเตรเลีย ภายในมีห้องจัดนิทรรศการเรื่องราวประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ประวัติบุคคลสำคัญทางการเมือง รัฐสภาเป็นให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00น. - 17.00น. ปิดในวันคริสมาสต์ ค่าเข้าชม สำหรับผู้ใหญ่ 2 ดอลล่าออสเตรเลีย และ เด็ก 1 ดอลล่าออสเตรเลีย

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สถานที่เที่ยวในลอนดอน

Tower Bridge
ใกล้ๆกับหอคอยแห่งลอนดอน เป็นที่ตั้งของ Tower Bridge สะพานข้ามแม่น้ำเทมส์ที่โด่งดัง
สะพานแห่งนี้เปิดใช้งานในปี 1894 มีลักษณะเป็นสะพานแขวนผสมกับสะพานที่สามารถเปิดตรงกลางสะพานได้ ยามเมื่อต้องการให้เรือสูงๆแล่นผ่านไป-มา


London Eye

คงไม่มีวิธีใดที่จะเฝ้ามองกรุงลอนดอนในมุมสูงได้ดีไปกว่า การมองจากชิงช้าขนาดยักษ์สูงถึง 135 เมตรซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์
London Eye เปิดให้ผู้คนเข้าไปใช้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 1999 เพื่อเฉลิมฉลองและต้อนรับสหัสวรรษใหม่ หรือ the new millennium ... ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ที่นี่ได้กลายเป็นหมุดหมายที่สำคัญแห่งใหม่ของกรุงลอนดอน ในปัจจุบัน London Eye เป็นชิงช้าที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก

Buckingham Palace
พระราชวังบั๊กกิ้งแฮม เป็นที่ประทับของพระราชินีของอังกฤษ และเป็นศูนย์กลางของราชวงศ์มาตั้งแต่ปี 1837 ... ในแต่ละวันจึงมีผู้คนไปอยู่รอบๆพระราชวังอย่างมากมาย ด้วยหวังว่า หากโชคดีอาจจะได้เห็นพระราชินีและหมู่ราชวงศ์

British Museum
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติของอังกฤษ เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมีโบราณวัตถุที่เก็บไว้ที่นี่มากมาย ... รวมถึง หิน Rosetta มี่โด่งดัง มัมมี่โบราณของอียิปต์ และรูปปั้นเลื่องชื่อของกรีก
ที่สำคัญที่สุดคือ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ย่อยๆและแกลเลอรี่อีกหลายแห่งในพื้นที่เดียวกัน ให้เดินชมและศึกษา คือ Natural History Museum, the Science Museum, the National Gallery, the Tate Modern and Tate Britain ... สามารถเข้าชมได้ฟรีค่ะ


Trafalgar Square
จตุรัส Trafalgar โด่งดังด้วยการมีเสา Nelson's Column อยู่ตรงกลางลาน เป็นจตุรัสที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ชื่อของจตุรัส เป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์สู้รบที่สมรภูมิแห่ง Trafalgar อันเป็นส่วนหนึ่งของสงครามนโปเลียน ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 1805's
จตุรัสแห่งนี้มักจะถูกใช้เป็นศูนย์รวมของผู้คนเมื่อเกิดเหตุการณ์ประท้วง หรือการรวมตัวของชุมชนจากทั่วประเทศอังกฤษ



Mudlarking under the Millennium Bridge
Millennium Bridge, EC43PA
Mudlarking ใต้สะพาน Millennium Bridge มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 18th และ 19th เมื่อครั้งที่คนจนๆในลอนดอนไปขุดคุ้ยค้นหาสิ่งของที่อาจจะตกหล่นอยู่แถวนั้น เพื่อนำไปขายเลี้ยงชีพ ... ที่นี่จึงเคยเป็นเหมือนสถานที่ที่ผู้คนไปหวีผมให้กับชายหาด (beachcombing)
หากคุณมาเดินเล่นที่นี่ในปัจจุบัน คุณอาจจะไม่เจออะไรมากนัก แต่ก็ยังอาจจะพบสิ่งของโบราณอายุหลายร้อยปีอย่างง่ายดาย ... แต่ต้องขอเตือนนะคะว่า อย่าลงมือขุดค้นเชียวนะ เพราะหากจะทำเช่นนั้นได้ คุณต้องมีใบอนุญาติค่ะ และต้องเตรียมถุงมือประเภทใช้แล้วทิ้งเลยไปด้วยเยอะๆค่ะ